Q&A เรื่องควรรู้เกี่ยวกับรถ EV ก่อนจะถึงหน้าฝน
สำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่ใช้รถ EV อยู่แล้ว หลายคนอาจยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรถไฟฟ้า ว่าหากขับขี่ในช่วงหน้าฝนที่มีน้ำขัง หรือ ชาร์จแบตเตอรี่ขณะฝนตกหนัก จะเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ และตัวรถหรือไม่ โพสต์นี้ แอกซ่า มีคำตอบมาให้แล้ว! กับ Q&A เรื่องควรรู้เกี่ยวกับรถ EV ก่อนจะถึงหน้าฝน โดยจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน
Q&A เรื่องควรรู้เกี่ยวกับรถ EV ก่อนจะถึงหน้าฝน

Q: EV Car ชาร์จไฟตอนฝนตกได้ไหม?
สามารถชาร์จได้ขณะฝนตก แต่ต้องระมัดระวังอย่าให้น้ำฝนกระเด็นเข้าไปในรูของปลั๊กหัวชาร์จ โดยเมื่อเสียบหัวชาร์จเข้ากับตัวรถแล้วให้ดึงฝาปิดลงทันที เพื่อป้องกันละอองฝน ทั้งนี้ ก่อนชาร์จไฟฟ้ากับตัวรถ ควรสังเกตสถานีรถไฟฟ้าว่าสายไฟหรือเครื่องจ่ายไฟไม่มีการชำรุดเสียหาย หรือเป็นจุดบริเวณที่มีฝนสาดเข้ามาหรือไม่ หากมี ควรหลีกเลี่ยงบริเวณจุดดังกล่าวจะดีที่สุด

Q: ฝนตกหนักขับ EV Car ได้หรือเปล่า?
สามารถขับได้ตามปกติ เพราะรถ EV ถูกออกแบบ และมีการซีลให้กันน้ำได้ดีกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาป เนื่องจากไม่มีการเผาไหม้ แต่ทั้งนี้ ควรระมัดระวังในการขับขี่เป็นอย่างมาก เนื่องจากอาจส่งผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ หากจำเป็นต้องใช้รถใช้ถนนในช่วงฝนตกหนัก ควรควบคุมความเร็วรถไม่เกิน 80 กม./ชม. และรักษาระยะห่างกับรถคันหน้า เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

Q: EV Car ขับลุยน้ำท่วมได้หรือไม่?
สามารถขับได้ เพราะโดยปกติมอเตอร์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เชื่อมต่อระบบไฟฟ้า จะมีฉนวนไฟฟ้า ที่ช่วยป้องกันจากละอองฝนได้เป็นอย่างดี แต่หากระหว่างเดินทางจำเป็นที่จะต้องผ่านในจุดที่น้ำท่วม ผู้ขับขี่ควรประเมินความสูงของระดับน้ำ ซึ่งไม่ควรเกินครึ่งล้อรถ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ของรถ EV ได้ โดยเฉพาะระบบแบตเตอรี่

Q: จอดรถ EV บริเวณน้ำท่วมเป็นเวลานานจะเกิดอะไรขึ้น?
โดยปกติรถยนต์ไฟฟ้า จะมีการทดสอบ IP Rating (Ingress Protection) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานในการป้องกันของแข็งและของเหลวที่อาจเข้ามาภายในตัวรถ ซึ่งสามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมไม่เกิน 1 เมตรได้ ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที แต่หากเกินมากกว่า 30 นาที ตัวรถอาจมีความเสี่ยงสูง ที่จะเกิดความเสียหายได้ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบเบรก ระบบแบตเตอรี่ ฯลฯ

Q: ขับรถ EV หน้าฝน แบตเตอรี่จะเสื่อมเร็วขึ้นไหม?
การใช้รถ EV ในฤดูฝนไม่ได้ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นโดยตรง แต่การลุยน้ำท่วม หรือ ขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนถนนลื่น อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในระยะยาว เนื่องจากการขับบนถนนลื่น จะทำให้ระบบการยึดเกาะทำงานหนัก และส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ดังนั้น จึงควรตรวจเช็กสภาพรถ EV รวมถึงแบตเตอรี่เป็นประจํา เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำที่อาจเกิดขึ้น

ไม่ว่าจะใช้รถฤดูไหน การมีประกันไว้ จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่ให้กับคุณประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 จากแอกซ่า คุ้มครองครบ หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากอุบัติเหตุ
- คุ้มครองทั้งรถสูญหาย รถไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ หรือ ลูกเห็บ
- ครอบคลุมความรับผิดต่อบุคคลภายนอกจากอุบัติเหตุ เนื่องจากการใช้งานเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน หรือ สถานีชาร์จสาธารณะ
- เลือกซ่อมศูนย์ (ซ่อมห้าง) สำหรับรถยนต์อายุไม่เกิน 5 ปี
- ประหยัดกว่ากับส่วนลดเบี้ยประกัน เมื่อเลือกแบบระบุผู้ขับขี่
- ฟรี! บริการตรวจสภาพรถ
ขับขี่รถ EV ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวลบนทุกเส้นทางกับ ประกันรถยนต์ชั้น 1 รถยนต์ไฟฟ้า จาก แอกซ่า ที่ครอบคลุมทั้งรถ ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี พร้อมให้คุ้มครองความเสียหาย หรือสูญหายต่อเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน, สายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรืออุบัติเหตุ จากการใช้งานเครื่องชาร์จที่บ้าน หรือสถานีชาร์จสาธารณะ มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทุกที่ตลอด 24 ชม.* สมัครง่าย ซื้อผ่านออนไลน์ รับกรมธรรม์ทันทีผ่านอีเมล
----------------------
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมhttps://www.axa.co.th/ev-car-insurance
AXA Hotline : โทร 02-118-8111
Line Official : @AXAThailand
*เงื่อนไขการรับประกันภัยและความคุ้มครองเสริมเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง