6 ประเทศเที่ยวปลายปีสุดประหยัด คุ้มค่าทุกสตางค์
หนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไวเหมือนโกหก ในที่สุดเราก็เข้าสู่ช่วงปลายปี เวลาทองแห่งการท่องเที่ยวของชาวไทยกันอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ช่วงนี้ใคร ๆ ต่างก็เล็งเป้าหมายการเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ อย่างครึกครื้น ทั้งจุดหมายในประเทศ หรือต่างประเทศก็ตาม แต่บางครั้ง การเดินทางไปต่างประเทศก็มีอุปสรรคใหญ่ที่งบประมาณค่าใช้จ่ายมักจะบานปลาย บางทีสถานที่สวย ๆ แปลก ๆ ก็อยากไปอยู่หรอกนะ และพอดูค่าใช้จ่ายแล้วก็สู้ไม่ไหวจริง ๆ
วันนี้เราเลยขอนำเสนอ 6 ประเทศที่ค่าใช้จ่ายไม่แพง และแสนคุ้มค่าเหมาะกับปัจจัยในกระเป๋าให้ได้ชมกัน
CHINA
ค่าเงิน RMP ( หยวน )
ค่าวีซ่า 1500 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบิน 3000-10000 บาท แล้วแต่มณฑล
ค่าโรงแรม2-3 ดาว ต่อคนต่อคืน 500 บาท
จีนเป็นหนึ่งประเทศที่มีภูมิทัศน์และสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทั่วทั้งโลกต่างยอมรับความยิ่งใหญ่ และอยากมาเยี่ยมชมดินแดนแสนกว้างใหญ่แห่งเอเชียดูสักครั้ง
แต่เวลาที่พูดถึงเมืองจีนทีไร นักท่องเที่ยวชาวไทยหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้สึกอยากไปซักเท่าไหร่เนื่องจากมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากหลายแห่งว่า เมืองจีนไม่น่าไป คนไม่มีระเบียบ หรือสื่อสารไม่ได้
แต่ประเทศจีนในยุคสมัยนี้เจริญก้าวหน้าขึ้นมาก ทั้งในด้านวัตถุและวัฒนธรรม แถมราคาค่าใช้จ่ายยังน่าคบหาอยู่มากมาย เราจึงควรจะลองเปิดใจให้ประเทศแห่งนี้ดูบ้าง
และเนื่องจากความกว้างใหญ่ไพศาลของแผ่นดินจีน ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เรียกว่าเที่ยว 10 รอบก็ยังไม่ทั่วประเทศเลย
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำก็มีหลายสิบแห่ง ถ้าหากชอบสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ปักกิ่งกับซีอานน่าสนใจมาก เพราะมีสิ่งก่อสร้างชื่อดังระดับโลกอย่างกำแพงเมืองจีน บริเวณชานเมืองปักกิ่ง พระราชวังต้องห้ามในตัวเมืองปักกิ่ง และกองทหารดินเผาที่ซีอาน ทั้งหมดล้วนแต่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่เที่ยวระดับโลกทั้งนั้น
ถ้าชอบธรรมชาติรับรองว่าต้องถูกใจ จางเจียเจี้ย ที่มีภูมิทัศน์แปลกตา หรือกุ้ยหลินที่จะเป็นเขาหินปูนสวยงามตลอดสองฝั่งแม่น้ำ
ด้านอาหารก็มีทั้งถูกปากและไม่ค่อยคุ้นลิ้นเท่าไรนัก แนะนำว่าถ้าไม่ชินอาหารจีนทางเหนือที่จะออกมัน ๆ เลี่ยน ๆ ให้หาร้านอาหารจีนที่มาจากแถบยูนานหรือแถบเหอหนาน ที่จะคุ้นลิ้นชาวไทยมากกว่า แถมราคาก็ไม่แพงด้วย ตกราวมื้อละ 100-200 บาทเท่านั้น
ถึงจะต้องลำบากขอวีซ่าเสียหน่อย แต่รับรองว่าเงินที่จ่ายไป คุ้มค่าทุกบาทอย่างแน่นอน
MOROCCO
ค่าเงิน Dirham
ค่าวีซ่า 800 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบิน ~25,000
ค่าโรงแรม2-3 ดาว ต่อคนต่อคืน 500 บาท
ประเทศในฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะนิยาย บทเพลง หรือหนังดังหลายเรื่องต่างยกเอาสถานที่ของประเทศนี้มาเป็นสถานที่ดำเนินเรื่อง ทำให้เมืองในโมรอคโคโด่งดังไปทั่วโลกมาอย่างช้านาน
ตอนเด็ก ๆ ทุกคนคงจะเคยได้ยินวลีเด็ดของชาวไทยว่า ร้อนยังกับซาฮาร่า ผ่านหูมาบ้างอย่างแน่นอน ทะเลทรายซาฮาร่าเป็นหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ เป็นทะเลทรายที่ชื่อดังที่สุดในโลกก็ว่าได้ แถมมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง ทั้งขี่อูฐท่องทะเลทราย หรือกางเต้นท์นอนดูดาว
แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ทะเลทราย เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและมีเอกลักษณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เมืองอย่างมาราเกซ หรือ คาซาบลังก้า ดังไปทั่วโลกจากบทเพลงและหนังดังต่าง ๆ เรียกว่าใคร ๆ ก็รู้จักกันทั้งนั้น
เมืองเล็ก ๆ อย่าง chefchaoun ก็สวยงามไม่ได้แพ้ใคร ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เพราะทั้งเมืองล้วนเป็นสีฟ้าสดใส ไม่ว่าจะบ้านหรือร้านค้า
อาหารโมรอคโคก็ขึ้นชื่อและน่าจะถูกปากชาวไทย เพราะใช้เครื่องเทศหลากหลายแบบพอเหมาะพอเจาะ เนื้อที่ใช้ก็คุ้นเคย ทั้งไก่ เนื้อวัว หรือแกะ
ที่สำคัญราคาค่าครองชีพไม่แพงเลย รวม ๆ แล้วไม่ได้หนีจากเมืองไทยเท่าไรนัก ฉะนั้นหากเก็บค่าตั๋วเครื่องบินได้ หรือมีตั๋วโปรโมชั่นบินมาลงที่นี่ก็รีบคว้าเอาไว้เลยเชียว
RUSSIA
ค่าเงิน RUBLE
ค่าวีซ่า ฟรี
ค่าตั๋วเครื่องบิน ~18,000
ค่าโรงแรม2-3 ดาว ต่อคนต่อคืน 600 บาท
ถ้าพูดถึงประเทศรัสเซียในอดีตสมัยยังคงเป็นสหภาพโซเวียตแล้วล่ะก็ หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงภาพประเทศปิดที่ลึบลับ ผู้คนทำตามระเบียบเหมือนหุ่นยนต์ มีทหารเดินกันเต็มเมือง และดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
Church of the Saviour on Spilled Blood, St. Petersburg, Russia
แต่นั่นเป็นภาพส่วนหนึ่งที่ภาพยนต์ต่าง ๆ พยายามจะทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น ซึ่งที่จริงแล้วความน่ากลัวมันไม่ได้เสี้ยวของที่หลาย ๆ สื่อพยายามทำออกมาเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปี 2017 นี้ รัสเซียเปลี่ยนภาพลักษณ์ไปอย่างมาก มีการเปิดประเทศอย่างจริงจัง พัฒนาบ้านเมืองให้เจริญขึ้น ห้างร้านต่าง ๆ ก็มีมากมาย ที่สำคัญเอกลักษณ์ความเป็นรัสเซียก็ไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา
สิ่งดึงดูดใจแรกสำหรับนักเดินทางคงไม่พ้นสถาปัตยกรรมที่แสนงดงามแบบรัสเซีย เรียกว่าหาที่ไหนในโลกไม่ได้จริง ๆ กับสถาปัตยกรรมโบสถ์ออร์โธด็อกซ์แบบรัสเซียที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมักจะเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียโบราณที่ได้รับอิทธิพลมาจากจักรวรรดิ์ไบแซนไทน์ ( ดังจะปรากฎในรูปแบบของโดมรูปหัวหอม )
ผสมผสานกับรูปแบบสถาปัตยกรรมหลากหลาย อย่างกอธิค หรือบาโรค ออกมาเป็นโบสถ์ที่สวยงามและสะดุดตาทุกคนที่ได้เห็นกระจายกันไปทั่วรัสเซีย นั่นเองทำให้โบสถ์ของรัสเซียหลายแห่งกลายเป็นสถานที่ในฝันของใครหลาย ๆ คนไปอย่างไม่ยากเย็น
จุดเด่นอีกอย่างของประเทศนี้คือสถานีรถไฟ รถไฟใต้ดินในรัสเซียโดยเฉพาะสองเมืองใหญ่ Moscow และ St petersburg นั้น ถือเป็นการคมนาคมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสะดวกสบายและราคาย่อมเยาว์ เฉพาะใน Moscow ก็มีสถานีกว่า 194 สถานีเข้าไปแล้ว
แต่ที่น่าตกใจกว่าจำนวนสถานีก็คือ การตกแต่งภายในสถานีต่าง ๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์และสวยงาม หลาย ๆ สถานีสวยจนนึกว่าเป็นพระราชวังเลยทีเดียว ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากยุคคอมมิวนิสต์ที่ต้องการแสดงความมั่งคั่งของระบบ จึงได้มีการตกแต่งสถานที่ที่ผู้คนใช้กันจำนวนมากอย่างสถานีรถไฟกันอย่างเต็มที่
เรื่องอาหารการกิน ในตอนแรกยอมรับว่าเรามีอคติกับอาหารรัสเซียอยู่พอสมควร เพราะคิดว่าน่าจะเลี่ยน ๆ ไม่มีรสชาติเหมือนกับอาหารในยุโรปในอีกหลาย ๆ ชาติ แต่หลังจากได้ลองอาหารรัสเซียจากร้านอาหารชื่อดังหลาย ๆ แห่งแล้ว ความคิดเกี่ยวกับอาหารรัสเซียก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว เพราะอาหารรัสเซียนั้นมีความหลากหลายทางรสชาติมากกว่าที่คิด มีการใช้เครื่องปรุงและเครื่องเทศที่หลากหลาย รสอาหารก็มีความซับซ้อนมาก ที่สำคัญมีอาหารบางอย่างที่มีรสเผ็ด (แบบอ่อน ๆ ) อีกด้วย
Moscow,Russia,Red square,view of St. Basil’s Cathedral
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย จากการปรับลดค่าเงินของรัสเซีย ทำให้ค่าครองชีพในรัสเซียถูกลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสมัย 4-5 ปีก่อน สำหรับคนไทยแล้วนี่เป็นประเทศยุโรปที่มีราคาถูกที่สุดประเทศหนึ่งทีเดียว โดยอาหารหนึ่งมื้อตกราว 100-200 บาท ค่ารถแท็กซี่ในเมืองก็อยู่ที่ราว 100 บาทเท่านั้นเอง
ค่าเงิน RAND
ค่าวีซ่า ฟรี
ค่าตั๋วเครื่องบิน ~20,000
ค่าโรงแรม2-3 ดาว ต่อคนต่อคืน 600 บาท
สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ เมื่อถูกถามว่าทวีปไหนที่ดูลึกลับมากที่สุด ส่วนใหญ่คำตอบมักจะไม่พ้นทวีปแอฟริกา
อาจจะเพราะด้วยภาพลักษณ์ที่สื่อนำเสนอ หรือรูปร่างหน้าตาและการดำเนินชีวิตที่ดูแตกต่างจากชาวเอเชียค่อนข้างมาก ทำให้เราไม่ค่อยคุ้นชินกับอะไร ๆ ที่เป็นแอฟริกาเท่าไรนัก เรื่องที่คิดจะเดินทางไปท่องเที่ยวนั้นยิ่งเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความคิดของนักเดินทางชาวไทยอย่างมากเลยทีเดียว
หลาย ๆ คนมักจะถามว่าไปแอฟริกาแล้วจะมีอะไรให้เที่ยวนอกจากไปดูสิงสาราสัตว์? ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วแอฟริกาเป็นทวีปที่มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวมากทีเดียว ตั้งแต่ภูเขาหิมะ ไปจนถึงทะเลทราย ที่ดินรกร้างไปจนถึงเมืองใหญ่
และถ้าจะพูดว่าแอฟริกาใต้เป็นหัวใจทางด้านเศรษฐกิจของทวีปแอฟริกาก็คงจะไม่ผิดนัก ในอดีตยุคที่การเดินเรือมั่งคั่งและรุ่งเรือง การจะเดินทางจากยุโรปไปเอเชียนั้น อย่างไรเสียก็ต้องผ่านดินแดนนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้แผ่นดินทางตอนใต้สุดของประเทศคึกคักและเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีตกาล โดยการพัฒนาร่วมกันของชาวยุโรปและชนพื้นถิ่น ทำให้ประเทศนี้มีกลิ่นอายของความเป็นตะวันตกอยู่
Herd of zebras on the african savannah
โดยเฉพาะ CAPETOWN ซึ่งเป็นเมืองเอกทางตอนใต้ของแอฟริกาใต้นั้นมีความเป็นยุโรปค่อนข้างมาก ทั้งสิ่งก่อสร้าง ภาษา ศาสนา และผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ โดยมีชาวยุโรป ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และดัชท์ อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น
จุดเด่นที่สุดของ CAPETOWN คือ Table mountain ภูเขาลูกใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง เรียกว่าจะมองจากทางไหนก็เห็นเด่นชัดไปเสียทุกทิศทุกทาง มีความความสูง 1,083 เมตร และด้วยรูปทรงที่แปลกตา บวกกับระบบนิเวศน์ที่มีเอกลักษณ์บนเขา ทำให้เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยม จนหลายสำนักยกให้เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามที่สุดในโลก
นอกจากภูเขาแล้ว แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของที่นี่ก็ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็น Colony ของเพนกวิ้นแอฟริกันนับพันตัวที่ Boulders Beach เกาะแมวน้ำ Seal Island ที่เราจะได้ล่องเรือไปพบกับฝูงแมวน้ำมากมายจนแทบไม่เชื่อสายตา หรือถ้าใครรักความหวาดเสียว จะลองไปดำน้ำในกรงเพื่อสัมผัสฉลามขาวในระยะประชิดก็เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่นแน่นอน หรือจะไปชมวาฬตัวเป็น ๆ จากแถวแหลม Goodhope ก็มีเรือให้บริการมากมาย
Penguins walk on the beach. Boulders Beach, Cape Town, South Afric
INDONESIA
ค่าเงิน RUPEE
ค่าวีซ่า ฟรี
ค่าตั๋วเครื่องบิน ~5,000
ค่าโรงแรม2-3 ดาว ต่อคนต่อคืน 400 บาท
ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีความเพียบพร้อมในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก
จริง ๆ แล้ว Indonesia เป็นประเทศขนาดใหญ่และมีประชากรลำดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว ประเทศประกอบไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่นับพันเกาะ และด้วยความที่ตั้งอยู่ในเส้นแนวภูเขาไฟ ทำให้มีภูมิประเทศที่แปลกตาที่หลงเหลือมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติที่ล้นเหลือ
เมืองชื่อดังที่เป็นที่นิยมก็ได้แก่ Bali เกาะเล็ก ๆ ที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมอันแสนน่าประทับใจ ใครมาเยือนสามารถที่จะพักในบ้านพักหน้าตาดีด้วยราคาแค่ไม่เกิน 500 บาทต่อคืนเท่านั้น วัดและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็ราคาค่าเข้าชมถูกมาก ๆ
หากอยากเจาะลึกวัฒนธรรมให้มากขึ้นอีกขอแนะนำ Yogyakarta ในอดีตชื่อเมือง Ayodhya หรือที่เรียกแบบไทย ๆ ว่า อโยธยา เมืองที่ร่ำรวยไปด้วยสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหามากมาย ถือเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรมาตาราม (Mataram)โบราณ อาณาจักรนี้มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างสูง ทั้งทางด้านศิลปะ วัฒนธรรมและการศาสนา เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาที่ใหญ่ระดับโลก ก่อสร้างศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่หลายต่อหลายแห่ง ก่อนที่สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายจะถูกการเถ้าถ่านจากระเบิดของภูเขาไฟเมราบีกลบทับ กลายเป็นเมืองร้างมายาวนานหลายร้อยปี
ปัจจุบัน YOGYAKARTA เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกมากมาย
หากใครชื่นชอบธรรมชาติก็ห้ามพลาดสุดยอดภูเขาไฟโบรโม่ที่ทิวทัศน์แปลกตายากจะมีที่ใดเหมือน
ทั้งหมดนี้ขอย้ำอีกทีว่า สามารถไปได้ด้วยค่าใช้จ่ายแค่น้อยนิดเท่านั้น ทริปหนึ่งไม่เกิน 20,000 บาทแน่นอน
TURKEY
ค่าเงิน LIRA
ค่าวีซ่า ฟรี
ค่าตั๋วเครื่องบิน ~20,000
ค่าโรงแรม2-3 ดาว ต่อคนต่อคืน 500 บาท
หนึ่งในประเทศที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองมากที่สุดในโลก ไม่มีที่ใดเหมือนกับตุรกีเพราะเป็นดินแดนที่ผสมผสานตะวันออกและตะวันตกไว้อย่างลงตัวมากที่สุด จะว่าเป็นตะวันออกกลางก็ไม่ใช่ จะเป็นฝรังก็ไม่เชิง จะเป็นเอเชียก็พอได้ ทั้งหมดทั้งปวงผสมผสานกลายเป็นตุรกี
สถานที่ท่องเที่ยวภายในประเทศมีทั้งสิ่งก่อสร้างที่แสนวิจิตร งดงามจนแทบไม่น่าเชื่อ หลายแห่งตั้งอยู่ในกรุง ISTANBUL นครโบราณที่มีอายุนับพันปี ผ่านยุคสมัยหลากหลายมากอย่างโชกโชน นั่นเองที่ทำให้สถาปัตยกรรมที่นี่มีความแปลกไม่เหมือนใคร เพราะผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรมและศาสนาเข้าด้วยกัน
หากชอบธรรมชาติที่แสนยิ่งใหญ่แนะนำให้ต่อรถไปที่ Goreme ที่ตั้งของ Cappadocia ที่มีภาพลักษณ์ไม่เหมือนเขาที่อื่น เพราะเขาในเมืองตอนกลางของตุรกีแห่งนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาไฟถึงสามลูก ซึ่งประทุบ่อย ๆ ในอดีต ทำให้มีภูมิทัศน์ที่แปลกตาสุดบรรยาย รวมถึงเมืองใต้ดินอันแสนจะน่าตื่นตาตื่นใจ
ใครมาตุรกีไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน เพราะค่อนข้างจะถูกปากชาวไทย แถมราคาไม่แพงอีกด้วย ร้านอาหารทั่วไปก็หาไม่ยาก มีตั้งขายอยู่ตลอดเวลา คนไทยที่จะมาเยือนตุรกีไม่ต้องเตรียมตัวมากเพราะไม่ต้องขอวีซ่า เตรียมตั๋วเครื่องบินแล้วมากันได้เลย
และนั่นคือ 6 เมืองที่เราอยากแนะนำให้รู้จัก รับรองว่างบไม่บานปลายแน่นอน แต่อย่าลืมกันงบประมาณส่วนหนึ่งไว้สำหรับประกันงานเดินทางเสียล่ะ เพราะว่าเหตุไม่คาดฝันอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ประกันการเดินทางจะช่วยให้เรื่องใหญ่ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายกลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก https://travelkanuman.com/